Wednesday, August 9, 2017

ทริป 2 วัน 1 คืน เยือนถิ่นชาละวัน-กราบหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน-ค้างคืนเมืองปากน้ำโพ



วันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้เดินทางไปกราบหลวงพ่อเงิน แห่งวัดบางคลาน จังหวัดพิจิตร จึงขอบันทึกเรื่องราวการเดินไว้ ณ ที่นี้
เริ่มจากเดินทางออกจากกรุงเทพ เวลา 6:00 น. โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 32 หรือสายเอเชียนั่นเอง เรามาถึงจังหวัดสิงบุรี ราวแปดโมงเช้า จึงแวะทานอาหารเช้าที่ร้าน เล็กต้มเลือดหมู ที่ กม. 87 ร้านนี้คนเยอะมาก ต้องเข้าคิวซื้อคูปอง แล้วยังต้องไปเข้าคิวซื้อต้มเลือดหมูอีก อาหารอื่นๆพวกโจ๊กหมูก็มีนะครับ คิวสั้นกว่ากันเยอะ หม้อต้มเลือดหมูที่นี่ใหญ่มากๆ ใหญ่ขนาดไหนดูรูปเอาได้เลยครับ




ส่วนตัวคิดว่ารสก็โอเค แต่ไม่เข้าใจทำไมคนเยอะจัง พักทานอาหารเช้าราว 45 นาที เราก็ออกเดินทางต่อไปจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเป็นทางผ่านต่อไปยังจังหวัดพิจิตร ขับรถใช้เวลาอีก 2 ชม. แวะปั๊มเข้าห้องน้ำบ้าง เป็นระยะทาง 100 กม. ก็ถึงสะพานเดชาติวงศ์ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา จากนั้นเราใช้ถนนหมายเลข 117 เข้าสู่จังหวัดพิจิตร ก่อนเลี้ยวขวาที่ถนนหมายเลข 1067 เพื่อไปวัดบางคลาน ดูแผนที่เส้นทางนี้เหมือนจะอ้อมๆหน่อย แต่เราชอบใช้ถนนใหญ่สายหลักมากกว่าถนนเล็กสายรอง สบายใจกว่าว่าอย่างนั้นเถอะ
เราขับไปดูจีพีเอสไป ในที่สุดก็มาถึงวัดเกือบเที่ยง สำหรับประวัติข้อมูลของหลวงพ่อเงิน นั้นท่านมีชื่อเต็มว่า หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดบางคลาน จังหวัดพิจิตร เกิดในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย  นามเดิมของท่านคือ เงิน หลังจากได้อุปสมบทแล้ว ท่านได้ศึกษาธรรมะจนแตกฉาน ตามด้วยฝึกฝนวิปัสสนาจนได้ญาณสมาธิแก่กล้า จากนั้นจึงศึกษาพุทธาคมจาก หลวงพ่อโพธิ์ วัดวังหมาเน่าจนมีความเชี่ยวชาญทางพุทธาคมอย่างมาก ชาวบ้านต่างร่ำลือในความศักดิ์สิทธิ์เป็นอันมาก พระเครื่องหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน มีชื่อเสียงในเรื่องอยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตราย และให้คุณทางโชคลาภ  ราคาของพระเครื่องหลวงพ่อเงินของแท้ มีราคาหลักล้านไม่ว่าจะพิมพ์ใด ความนิยมในพระเครื่องหลวงพ่อเงินนี่เอง ที่ผู้คนต่างหาข้อมูลประเภทว่า ของแท้ดูยังไง ของปลอมดูอย่างไร ของแท้ราคาเท่าไหร่ ศึกษาแม้กระทั่งเกล็ดกระดี่หรือคราบเบ้าของพระเครื่อง



รูปหล่อพิมพ์นิยมหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน

เราเข้ากราบรูปเหมือนหลวงพ่อในโบสถ์ด้วยดอกไม้ธูปเทียน ก่อนออกมาซื้ออาหารปลา อ้อ ซื้อปลาไปปล่อยที่ท่าน้ำด้วย เนื่องจากวัดบางคลานนี้อยู่ริมแม่น้ำพิจิตรนั่นเอง




เราใช้เวลาที่วัดจนถึงบ่ายสอง จึงออกจากวัดเพื่อไปพักโรงแรม แนะนำว่าให้กลับมาพักที่นครสวรรค์จะสะดวกกว่าพักที่ตัวเมืองพิจิตร เนื่องจากตัวเมืองนครสวรรค์นั้นใกล้กว่าตัวเมืองพิจิตร โรงแรมมีให้เลือกมากกว่าแล้วนครสวรรค์ก็เป็นทางที่เราต้องผ่านเพื่อกลับบ้านด้วย อย่างไรก็ตามถ้าใครคิดว่ามาถึงพิจิตรแล้วก็ควรพักที่พิจิตร ก็เลือกโรงแรมได้เลย ดูห้องสวยๆพร้อมแผนที่โดย คลิกที่นี่
 เรามาถึงตัวเมืองนครสวรรค์ราวบ่ายสามนิดๆ โดยศึกษาข้อมูลโรงแรมไว้พอสมควร มีตัวเลือกโรงแรมอยู่ 5 แห่ง ราคาหลักร้อย แต่ได้คะแนนรีวิวจากผู้เคยเข้าพักค่อนข้างสูง โรงแรมตัวเลือกทั้ง 5 แห่งของเราได้แก่

1.     โรงแรมเดอะ พาราดิโซ เจเค ดีไซน์ (The Paradiso JK Design Hotel) ได้คะแนนริวิวดูจากเวป Agoda 8.2 ราคาห้องพักเตียงใหญ่ 943 บาท จุดเด่นคืออยู่ริมถนนใหญ่ 117 เป็นโรงแรมใหม่แลดูทันสมัย ตบแต่งสวยงาม ห้องล็อบบี้หรูสุดๆ แถมหน้าโรงแรมมีคลับให้นั่งฟังเพลงอีก ดูรูปโรงแรมและดูแผนที่ได้โดย คลิกที่นี่   






 2.     โรงแรมอารามิส (Aramis Hotel) ได้คะแนนริวิว 8.5 ราคาห้องพัก 864 บาท ตัวโรงแรมตั้งอยู่บนถนนสวรรค์วิถี ซึ่งมีความคึกคักอยู่ในตัว มีห้าง มีร้านอาหารมากมาย ไม่เหงาแน่นอน ดูรูปโรงแรมและดูแผนที่ได้โดย คลิกที่นี่  



3.     โรงแรมพี.เอ. ธานีโฮเต็ล (P.A. Thani Hotel) ได้คะแนนริวิว 8.3 ราคาห้องพัก 539 บาท จุดเด่นคือราคาถูกมาก ในขณะที่คะแนนรีวิวค่อนข้างสูง ตัวโรงแรมตั้งอยู่บนถนนสวรรค์วิถีเหมือนโรงแรมอารามิส คึกคักแน่นอน ดูรูปโรงแรมและดูแผนที่ได้โดย คลิกที่นี่    



4.     เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์บ้านสนั่นคุณ (Baan Sanarnkhun) ได้คะแนนรีวิว 8.6 ราคาห้องพัก 364 บาท จุดเด่นคือราคาถูกมาก ข้อเสียคืออยู่ห่างจากตัวเมืองออกมานิดหน่อย ดูรูปโรงแรมและดูแผนที่ได้โดย คลิกที่นี่  



5.     โรงแรมรักกัน รีสอร์ท 2 (Rak Kun Resort 2) คะแนนรีวิวไม่สูงมากที่ 6.0 แต่ราคาถูกที่สุดคือ 314 บาท จึงอยู่ในตัวเลือกแนะนำสำหรับท่านที่งบน้อยจริงๆ ตัวโรงแรมอยู่ในซอยเล็ก แต่ตั้งใจไปก็คงไม่ลำบาก ดูรูปโรงแรมและดูแผนที่ได้โดย คลิกที่นี่   
  
 เมื่อเราสำรวจแค่โรงแรมแรกซึ่งก็คือ เดอะ พาราดิโซ เจเค ดีไซน์ เราก็ตัดสินใจพักที่นี่เลยด้วยเหตุผลหลายอย่าง คืออยู่ติดถนนใหญ่หมายเลข 117 จะไปจะมาสะดวกมากๆ ตัวโรงแรม ห้องล็อบบี้ดูหรูหรา ที่สำคัญมีผับนั่งฟังเพลงที่หน้าโรงแรมนี่แหละ อิอิ ขอบคุณที่ตามอ่าน

Monday, August 7, 2017

แก่งกระจาน ตอนที่ 3 - พักผ่อนแบบสบายๆช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ริมแม่น้ำเพชรบุรี



สำหรับตอนนี้เป็นการแนะนำที่พักสำหรับท่านที่ยังไม่แน่ใจว่าจะพักที่ไหนเมื่อไปแก่งกระจาน นอกจากเพชรน้ำผึ้งที่เราไปพักกันแล้ว บริเวณรอบๆริมแม่น้ำเพชรบุรี และทางไปอุทยานยังมีที่พักอีกมากมาย รวมทั้งลานกางเต๊นท์ของอุทยานและของเอกชน อย่างไรก็ตามท่านควรวางแผนและทำการจองโรงแรมหรือรีสอร์ทแต่เนิ่นๆ เพราะจากประสบการณ์ที่เราเจอมา ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ต่อเนื่องวันหยุดพิเศษ 3 วัน ที่พักเต็มเกือบทั้งหมด มีการโทรจองเต็มล่วงหน้ามา 2 อาทิตย์แล้ว 

 รูปแหล่งที่พักริมแม่น้ำเพชรบุรี ยริเวณใต้แก่ง
จากรูปจะเห็นเพชรน้ำผึ้งรีสอร์ทที่เราไปพัก อยู่ริมแม่น้ำเพชรบุรี รีสอร์ทริบๆที่อยู่ริมแม่น้ำเหมือนกันได้แก่ บ้านไม้ไร่เจริญรีสอร์ท, แก่งกระจานริเวอร์ไซด์รีสอร์ท, บ้านน้ำใส ไอดินกลิ่นดาว, บ้อนโอบฟ้ารีสอร์ท, ไก่แจ้รีสอร์ท, ธารทิพย์รีสอร์ท, บ้านธารทิพย์แก่งกระจาน, Harmony resort Kaeng Krachan, และ แก่งกระจาน แอดเวนเจอร์ พอยท์ รีสอร์ท เป็นต้น รีสอร์ทหรือที่พักเหล่านี้ จะมีกิจกรรมทางน้ำให้เล่น เช่นล่องเรือยาง ทุกรีสอร์ทจะมีแอ่งน้ำเล็กๆและสไลเดอร์ส่วนตัวให้เล่น
 สำหรับทางไปอุทยานก็มีที่พักอีกหลายแห่ง บางแห่งอาจจะไม่ได้อยู่ริมน้ำแต่ว่ามองเห็นวิวแก่งกระจานอย่างชัดเจน


ทางไปอุทยานมีทั้งโรงแรม รีสอร์ท และลานกางเต๊นท์ เอกชน


ที่อุทยาน มีลานกางเต๊นท์ของอุทยาน อยู่ใกล้กับสะพานแขวนไม้

อย่างไรก็ตาม ถ้าท่านอยากจองที่พักผ่านทางออนไลน์ เรามีที่พักแนะนำดังนี้
1.       โรงแรม Rivercreek Estate อยู่ริมน้ำเพชรบุรีเช่นกัน เพียงแต่ห่างออกมาจากตัวแก่งอีกนิด ดีตรงความเงียบสงบเป็นธรรมชาติ นั่งชิงช้าที่ริมน้ำอย่างฟิน แนะนำเป็นอันดับที่ 1 เลยครับ ดูรูปบริเวณรีสอร์ท รูปห้อง แผนที่ หรือทำการจอง คลิกที่นี่ ครับ







 2.       T AND P Lake View ที่นี่เด่นที่ location ครับ อยู่เหนือแก่ง บรรยากาศเงียบสงบสุด เข้าไปดูรายละเอียดตามลิงค์แทบร้องซี๊ดเลยทีเดียว เจ้าของเป็นชาวบ้านธรรมดา ที่พักมีทั้งแบบเป็นห้องและกางเต๊นท์ริมแก่ง ขากางเต๊นท์แนะนำที่นี่เลยครับ ปิ้งย่างกันสบายๆโล่งๆเลย เงียบสงบจริงๆ ดูรายละเอียดรูปที่พักและแผนที่โดย คลิกที่นี่







 3.       The Canal Garden Resort อยู่ริมแม่น้ำเพชรบุรี แต่ห่างแก่งออกมามากสักหน่อย จุดเด่นอยู่ที่ตัวรีสอร์ทมีสระน้ำ สวนทำกิจกรรม แอ่งน้ำ เป็นของตัวเอง มีกิจกรรมใก้เล่นเช่น สกูตเตอร์ ปีนหน้าผา ล่องแพยาง ผจญภัย ห้อยโหนสลิง เป็นต้น เหมาะกับการไปพักแบบครอบครัว หรือไปเป็นหมู่คณะ โดยเฉพาะถ้ามีเด็กๆ ควรเล่นน้ำในสระมากกว่าเล่นน้ำในแม่น้ำเพชรบุรี สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมและดูแผนที่ คลิกที่นี่ 







4.       D Varee Diva Nana Kaeng Krachan อยู่ติดริมแม่น้ำเพชรบุรี ราคาห้องพักจะสูงกว่าทุกที่ที่แนะนำ แต่มาพร้อมกับความหรูหรา Facilities พร้อมสรรพ, ห้องออกกำลังกาย, ห้องสปา, และ สระว่ายน้ำสวยงาม ถ้าต้องการที่พักระดับมีเกรดสักหน่อย แนะนำที่นี่ครับ สนใจดูรายละเอียดเพิ่มและดูแผนที่ คลิกที่นี่ 





 5.       Kaengkrachan Boathouse Paradise รีสอร์ทนี้อยู่ติดริมแก่งทางด้านทิศใต้ ราคาห้องพักหลากหลายมากตั้งแต่พันกว่าบาทจนถึง 7-8พัน ลองเข้าไปดูรายละเอียดแต่ละห้องในเวปเองนะครับ ห้องสวยดูดีมีระดับ วิวสวยจริงๆข้างหน้าเป็นแก่งกระจานถัดไปเป็นภูเขาสวยมากๆครับ ดูรูปเพิ่มเติมและแผนที่โดย คลิกที่นี่ ครับ 







 เป็นอันว่าจบตอน 3 ของการเที่ยวแก่งกระจาน ที่พักมีทุกแบบตั้งแต่ราคาถูก จนไม่ค่อยถูก มีทั้งลานกางเต๊นท์ แบบเอกชนหรือของอุทยาน ทั้งนำเต๊นท์ไปเองหรือเช่าเต๊นท์ มีทั้งลานปิ้งย่าง มีกิจกรรมทุกรูปแบบ ล่องแก่ง ล่องแพยาง ในแม่น้ำเพชรบุรี หวังว่าทุกท่านที่ไปเที่ยวจะได้รับความสุขกันทั่วหน้า สวัสดีครับ


คลิกที่นี่ เพื่ออ่าน แก่งกระจาน ตอนที่ 1 - พักผ่อนแบบสบายๆช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์  ริมแม่น้ำเพชรบุรี
คลิกที่นี่ เพื่ออ่าน แก่งกระจาน ตอนที่ 2 - พักผ่อนแบบสบายๆช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์  ริมแม่น้ำเพชรบุรี


Sunday, August 6, 2017

แก่งกระจาน ตอนที่ 2 - พักผ่อนแบบสบายๆช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ริมแม่น้ำเพชรบุรี



ตอนเช้าเราทยอยตื่นกันตั้งแต่ตีสี่ ต่างคนต่างแยกย้ายไปอาบน้ำอาบท่า ตีห้าบางคนยังนอนอยู่แต่บางคนแต่งตัวใส่ชุดจักรยานพร้อมออกปั่นแล้ว แม่เจ้า! จะรีบไปไหน 6:30 น. พวกเราเริ่มเก็บข้าวของเตรียมรถจักรจนเสร็จทุกคนแล้วออกไปทานอาหารเช้าที่ทางรีสอร์ทจัดให้ หัวละ 50 บาท ประกอบด้วยข้าวต้มไก่ กาแฟร้อน และปาท่องโก๋ หลังจากฟาดอาหารเช้าแล้ว ก็ล้อหมุนออกไปถ่ายรูปบนสันเขื่อน ระยะทางกิโลกว่าๆ แต่ปั่นขึ้นเนินกันจนแทบอาเจียนออกมาเป็นอาหารเช้า หลายคนในทีมถึงกับต้องลงเข็น เราถ่ายรูปกับป้ายเขื่อนแก่งกระจานอยู่พักใหญ่ๆ ก่อนออกปั่นไปอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ซึ่งเป็นพืนที่เหนือเขื่อน
ขาแรงยังต้องลงเข็น


บนสันเขื่อน




 ถ่ายรูปกับป้ายเขื่อน




 ถ่ายรูปกับป้ายเขื่อนอีกหนึ่งป้าย

เมื่อเข้าเขตอุทยาน เราผ่านลานกางเต๊นท์ หลายคนถูกใจยืนยันว่าจะมากางเต๊นท์ที่นี่ในครั้งต่อไป 

รูปลานกางเต๊นท์ที่ถูกใจใครหลายคน


เลยจุดกางเต๊นท์จะมีสะพานไม้ ยาวเป็นร้อยเมตร สะพานไม้นี้เป็นฉากหนึ่งของภาพยนต์เรื่อง สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก หัวสะพานมีรูปในฉากหนึ่งของหนัง พระเอก (มาริโอ้) กับนางเอก (พิมพ์ชนก) กำลังนั่งห้อยขาคุยกันกระหนุงหระหนิงบนสะพาน 
 สะพานไม้แก่งกระจาน



 ฉากหนึ่งของภาพยนต์สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก



 พวกเรากับสะพานไม้ ลิงเจ้าถิ่นกำลังมาที่ด้านหลัง

อีกฝั่งของสะพานไม้เป็นเกาะกลางแก่ง เป็นที่อยู่ของฝูงลิงแสม เจ้าลิงแสมสองสามตัวนั่งอยู่กลางสะพานคอยแยกเขี้ยวใส่คนที่ถือถุงอาหารเดินอยู่บน ขณะที่พวกเรายืนรอสาวๆกลุ่มหนึ่ง เพื่อรอถ่ายรูปบนสะพาน เจ้าลิงแสมตัวใหญ่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าฝูง เดินแยกเขี้ยวไล่สาวๆมาตั้งแต่กลางสะพาน จนเหล่าสาวๆเดินหนีลิงมาทางพวกเราชาวจักรยาน สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ วิกฤติสร้างโอกาส พวกเรา 6-7 คนไม่รอเช้าก้าวออกมาขวางยืนเผชิญหน้าลิง ห่างกันราว 3 เมตร ลุงผู้อาวุโสสุดของทีมยืนหน้าสุดจ้องตาลิง หวังใช้พลังจิตขับไล่ลิง อึดใจผ่านไปลิงไม่ถอยแต่เดินเข้ามา 1 ก้าว ลุงยังคงจ้องตาลิงพร้อมเพิ่มพลังจิตขั้นสูงสุด อีกหนึ่งอึดใจ ลิงเดินเข้ามาอีก 1 ก้าว ระยะห่างเหลือแค่ 2 เมตร ประมาณว่าลิงกระโดดทีเดียวกัดขาได้เลย ในวินาทีแห่งความคับขันนั้นจู่ๆลิงก็ถอยกรูด กลับไปยังสะพานไม้ ลุงยังคงจ้องลิงท่าเดิมแต่เอียงคอมาถามผมว่า
มีอะไรบางอย่างอยู่ข้างหลังลุงใช่ไหม
ใช่ครับ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ในชุดลายพรางนั่นเอง มาพร้อมหนังสติ๊ก ลิงไม่กลัวใครแต่กลัวเจ้าหน้าที่ที่ถือหนังสติ๊ก เป็นอันว่าลุงของเราไม่มีพลังจิตไล่ลิงอะไรเลย เจ้าหน้าที่ไล่ลิงจนไปสุดปลายสะพานฝั่งโน้น แล้วบอกให้เราเดินไปถ่ายรูปบนสะพานได้ พวกเราสิบคนเดินไปเกือบถึงกลางสะพาน แล้วตั้งท่าถ่ายรูปกัน ถ่ายไป 2-3 รูป คนที่ยืนไกลสุดตะโกนว่าลิงมาแล้ว ผมก็ดันอยู่กลุ่มที่ไกลสุด เห็นลิงเดินมาใกล้เข้าๆ เราค่อยๆถอยออก แต่ช้ากว่าลิง ลิงเข้ามาประชิดตัวห่างแค่ 1 เมตร ใครคนหนึ่งในทีมเราอ้าปากขู่แล้วร้อง แฮร่ ปรากฎว่าลิงอ้าปากขู่โชว์เขี้ยวโง้งซ้ายขวาทำท่ากระโดดใส่ เท่านั้นเองคนร่วมสิบคนวงแตกถอยกรูดบนสะพาน จนสะพานดูเหมือนแกว่งไปมา ทั้งเดินทั้งผลักทั้งดันกันจนออกมาจากสะพานหมดโดยมีลิงเดินตามมา และแล้ว ก็อีกเช่นเคย เจ้าหน้าที่คนเดิมมาไล่ลิงออกไป พวกเราตัดสินใจไม่ถ่ายรูปแล้ว ปั่นกลับเลยดีกว่า


 รูปลิงจากอินเตอร์เนท หน้าเหมือนกัน ตัวเท่ากัน เขี้ยวใหญ่เท่ากัน แว๊กกกก...ตัวเดียวกันปะเนี่ย

เราออกปั่นจากอุทยานออกมาตามถนน 3499 แล้วเลี้ยวซ้ายออก 4024 ต่อเนื่องกับ 3204 แล้วเลี้ยวขวาเข้า 4040 กลับตำบลบ้านกุ่ม รวมระยะทาง 70 กม. น้อยกว่าวันแรกเพราะเราไม่ได้แวะโครงการชั่งหัวมัน
 เรามาถึงบ้านเพื่อนที่จอดรถไว้ตอนเที่ยงพอดี เจ้าของบ้านทำต้มยำไก่บ้านรสอร่อยจัดจ้านหม้อใหญ่ๆ พร้อมทอดไข่เจียวแสนอร่อย 3 จาน เรากินกันอย่างเอร็ดอร่อย ต้มยำอร่อยมากแต่เผ็ดไปนิด ผมกินซะเหงื่อแตก น้ำหูน้ำตาไหลกันเลยทีเดียว
 เจ้าของบ้านหุงข้าวหม้อใหญ่


 ต้มยำไก่บ้านหม้อบิ๊กบึ้ม

 ใส่ชามแล้วดูสวย รสชาติจัดจ้านสุดๆ

เรานั่งคุยกับเจ้าบ้านจนถึงบ่ายสามก็ได้เวลาร่ำลา เอาจักรยานใส่รถขับกลับกรุงเทพอย่างอิ่มเอมใจ แก่งกระจานอยู่ห่างจากกรุงเทพไม่เกิน 200 กม. ใช้เวลาขับรถราว 2 ชม. เหมาะที่จะเป็นที่เที่ยวช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือ ที่เที่ยว 2 วัน 1 คืน มีที่พัก รีสอร์ท สวยๆ ริมแม่น้ำเพชรบุรี ราคาถูกมากมาย ไปแล้วคงต้องหาโอกาสไปอีก
 ตอนต่อไปจะแนะนำที่พัก รีสอร์ท ต่างๆที่อยู่ในบริเวณแก่งกระจาน เผื่อเพื่อนๆไปเที่ยว จะได้มีตัวเลือกก่อนไป หรือเพื่อนๆอาจจะ คลิกที่นี่ เพื่อนหาที่พักอื่นๆในจังหวัดเพชรบุรี 



คลิกที่นี่ เพื่ออ่าน แก่งกระจาน ตอนที่ 1 - พักผ่อนแบบสบายๆช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์  ริมแม่น้ำเพชรบุรี
คลิกที่นี่ เพื่ออ่าน แก่งกระจาน ตอนที่ 3 - พักผ่อนแบบสบายๆช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์  ริมแม่น้ำเพชรบุรี

30 กย. 2560 Audax200 อัมพวา

ทีมบางมดเกือบ 20 คนร่วมปั่น Audax200 อัมพวา เส้นทาง นครปฐม-อัมพวา-นครปฐม ระยะทางรวม 200 กม. ทริปนี้จัดขึ้นวันที่ 30 กย. 2560 ส่วนตัวผมเคยปั่...